ขายฝากที่ดินยังผ่อนไม่หมด ทำได้ไหม? มีทางเลือกอะไรบ้าง
หลายคนอาจเคยได้ยินคำว่า “ขายฝาก” เป็นทางออกเมื่ออยากได้เงินด่วน แต่ถ้าที่ดินยังผ่อนกับธนาคารอยู่ จะสามารถขายฝากได้ไหม? และถ้าไม่สามารถทำได้ตรง ๆ จะมีทางออกอะไรบ้าง บทความนี้สรุปให้เห็นภาพชัดเจน พร้อมตารางเปรียบเทียบเพื่อช่วยตัดสินใจ
1. ขายฝากคืออะไร ทำไมต้องเข้าใจเรื่องกรรมสิทธิ์
ขายฝาก คือการโอนกรรมสิทธิ์ทรัพย์สินให้ผู้รับซื้อฝาก แต่เจ้าของยังสามารถไถ่ถอนคืนได้ภายในเวลาที่ตกลงไว้ แตกต่างจากการขายปกติที่กรรมสิทธิ์โอนทันที
สิ่งที่ควรจำ:
การทำความเข้าใจเรื่องกรรมสิทธิ์และภาระผูกพันของที่ดินเป็นสิ่งสำคัญ เพราะหากไม่ตรวจสอบโฉนดให้รอบคอบ อาจเกิดปัญหาทางกฎหมายตามมา
2. ปัญหาหลักของการขายฝากที่ดินที่ยังผ่อนอยู่
หากที่ดินยังผ่อนอยู่ โฉนดจะติดจำนองธนาคาร ซึ่งธนาคารถือสิทธิอันดับหนึ่งในการบังคับจำนองหากผู้กู้ผิดนัด
ผลที่อาจเกิดขึ้น:
แทรกเรื่องกฎหมาย:
ตามมาตรา 492 ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ หากผู้ขายโอนขายฝากโดยมิชอบ กรรมสิทธิ์ที่ดินอาจไม่ถูกต้องตามกฎหมาย ผู้ซื้อฝากอาจไม่สามารถเรียกร้องสิทธิไถ่ถอนได้ และผู้ขายอาจถูกฟ้องให้ยกเลิกสัญญา นี่จึงเป็นเหตุผลว่าทำไมต้องเคลียร์ภาระหนี้ให้เรียบร้อยก่อนขายฝาก
3. ทางเลือกที่ 1: ปิดหนี้และถอนจำนอง
วิธีที่ตรงที่สุดคือ ชำระหนี้ครบถ้วน แล้วถอนจำนองออกจากโฉนด หลังจากนั้นสามารถขายฝากได้ทันที
ข้อดี:
ข้อจำกัด:
เคล็ดลับ:
4. ทางเลือกที่ 2: รีไฟแนนซ์หรือย้ายหนี้
รีไฟแนนซ์คือการกู้ใหม่เพื่อนำไปปิดหนี้เดิม หลังจากนั้นโฉนดจะปลอดภาระ สามารถขายฝากได้
ข้อดี:
ข้อควรระวัง:
5. ทางเลือกที่ 3: ใช้นายทุนช่วยปิดหนี้
บางนายทุนยินดีช่วยนำเงินไปปิดหนี้ธนาคาร แล้วทำสัญญาขายฝากกับเจ้าของ
ข้อดี:
ข้อควรระวัง:
ตัวอย่างจริง:
คุณสุธิดาผ่อนที่ดินเดือนละ 15,000 บาท เหลืออีก 2 ปี นายทุนเสนอช่วยปิดหนี้พร้อมทำขายฝากทันที แต่คิดดอกเบี้ยสูงกว่า 2 เท่า เธอจึงต้องตัดสินใจว่าความสะดวกแลกกับค่าใช้จ่ายสูงนั้นคุ้มไหม
6. สิ่งที่ควรทำก่อนตัดสินใจ
ขายฝากที่ดินยังผ่อนไม่หมด ไม่สามารถทำได้ทันที เพราะโฉนดยังติดจำนอง แต่ยังมีทางเลือกหลายทาง เช่น ปิดหนี้ ถอนจำนอง รีไฟแนนซ์ หรือใช้นายทุนช่วยปิดหนี้
สิ่งสำคัญคือวางแผนให้รอบด้าน ศึกษากฎหมาย และเปรียบเทียบค่าใช้จ่ายแต่ละทางเลือก เพื่อให้การขายฝากปลอดภัยและราบรื่น